ความพ่ายแพ้ของผู้นำในสามก๊ก : เล่าปี่พ่ายโจโฉยับเยิน

บทที่ 28
เล่าปี่พ่ายโจโฉยับเยิน
ความผิดพลาดของผู้นำที่เชื่อข่าวลือ

ในขณะที่โจโฉสามารถถล่มกองทัพอ้วนเสี้ยวจอมพลแดนเหนือจนราบคาบ
อ้วนเสี้ยวหอบความแค้นกลับไปเลียแผลที่แคว้นกิจิ๋ว
โจโฉไม่รอให้อ้วนเสี้ยวสมานแผล
เตรียมการยกทัพไปถล่มอ้วนเสี้ยวเพื่อนรัก (หักเหลี่ยมโหด)

ทว่าพระเจ้าอาเล่าปี่ซึ่งไปซ่องสุมกำลังที่เมืองยีหลำ โดยได้รับความช่วยเหลือจากเล่าเพ็ก. เจ้าเมืองยีหลำผู้ศรัทธาในตัวพระเจ้าอา
ถือโอกาสที่โจโฉจะยกทัพข้ามแม่น้ำฮวงโห
เพื่อบุกถล่มอ้วนเสี้ยวที่กิจิ๋ว
จะยกทัพเข้าตีท้ายครัว ด้วยการยึดพระนครฮูโต๋




บังเอิญโจโฉทันเกมเล่าปี่จึงปล่อยข่าวว่ารัฐบาลได้ยกทัพขึ้นเหนือแล้ว
เล่าปี่คิดว่าเป็นเรื่องจริ
ง จึงรีบยกทัพบุกทันที
ช่วงแรกๆชัยชนะตกเป็นของเล่
าปี่
เพราะโจโฉต้องการให้เล่าปี่
ตายใจ
เล่าปี่แม้จะฉลาดแต่ก็ไม่ทั
นเหลี่ยมกลยุทธ์ของโจโฉ
จึงยกทัพถลำลึกโดยไม่รู้ตัว


สุดท้ายโจโฉจึงใช้อุบายฉีกทัพเล่าปี่เป็นชิ้นๆ
ด้วยการปล่อยข่าวลือว่าจะยกทัพตีเมืองโน้น ตีเมืองนี้
เพื่อให้เล่าปี่หัวปั่น ต้องส่งกวนอู เตียวหุย ไปรักษาเมืองเพื่อพิทักษ์ทางถอย
เป็นอันว่ากองทัพของเล่าปี่ถูกแยกเป็นส่วนๆ

เมื่อเห็นว่าเล่าปี่ไม่มีขุนทหารเอกเหลือ
โจโฉจึงเคลื่อนทัพใหญ่ ขยี้เล่าปี่จนพ่ายยับเยิน
เล่าปี่จึงต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปอยู่กับเล่าเปียว

คุณผู้อ่านครับความพ่ายแพ้ของเล่าปี่
ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาด้านการข่าวและข้อมูล
ส่งผลให้การวางแผนผิดพลาดมาโดยตลอด

ยิ่งโจโฉปล่อยข่าวลือ
เล่าปี่ก็ยิ่งดิ้นรนใหญ่
ทำให้เข้าทางโจโฉ
กว่าที่พระเจ้าอาจะรู้ตัวก็
สายเกินไปแล้ว

เรื่องราวในตอนนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญกับผู้นำเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะผู้นำที่อยู่กับข้อมูลข่าวสาร
จนบางครั้งเกิดการ "เบลอข้อมูล"
จนแยกไม่ออกว่าอะไรคือเรื่องจริงหรืออะไรเป็นข่าวลือ
เนื่องจากบางครั้งขาดการวิเคราะห์ ที่มีประสิทธิภาพ
หรือได้รับข่าวนั้นซ้ำไปซ้ำมาอย่างต่อเนื่อง
ตามแนวทางทฤษฎีกระสุน ที่อาศัยการรัวกระหน่ำข้อมูลชุดเดิมทุกวัน
จากเดิมที่ไม่เคยเชื่อก็ต้องเชื่อ

ยกตัวอย่างง่ายๆว่า พนักงานคนหนึ่งมีความสามารถสูง
หัวหน้างานก็ชื่นชมบ่อย
จนเพื่อนร่วมงานกลุ่มหนึ่งร
ู้สึกอิจฉา

ทุกวันจะมีคนนำเรื่องแย่ๆของพนักงานดีเด่นผู้นี้ไปนินทาให้หัวหน้างานฟัง
ช่วงแรกๆหัวหน้างานย่อมไม่เชื่อ
แต่ถ้าหัวหน้างานต้องฟังเรื่องเดิมๆทุกวัน
จากหลายๆคนในทีมและบุคคลภายนอก
มีหรือหัวหน้างานจะไม่โน้มเอียงไปตามข่าวนั้น
เพียงเท่านี้พนักงานดีเด่นก็จะถูกจบตามองเป็นพิเศษ
จนกลายเป็นการ"จับผิด" คราวนี้หากเกิดความผิดพลาดขึ้นมาจริง
ความดีที่เคยทำก็จะหาย
และจะถูกตำหนิอย่างรุนแรง

นี่แหละครับอานุภาพของข่าวลือ
ด้วยเหตุนี้ผู้นำต้องมีสติและอย่าเชื่อสิ่งใดด้วยอคติ
เพราะคุณอาจจะกลายเป็นเครื่องมือของมือที่มองไม่เห็นครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก อ.เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป ผู้เชี่ยวชาญสามก๊ก