ความพ่ายแพ้ของผู้นำในสามก๊ก : โจโฉถูกเล่าปี่ฮุบกองทัพ

บทที่ 24
โจโฉถูกเล่าปี่ฮุบกองทัพ
ความผิดพลาด้านการสื่อสารของผู้นำ

นับตั้งแต่เล่าปี่เป็นสมเด็จพระเจ้าอา ก็เริ่มสะสมบารมีมากขึ้น
จนเหล่าเสนาธิการของโจโฉ เริ่มวิตกว่าเล่าปี่จะเป็นศัตรูคนใหม่ในราชสำนัก
ตัวโจโฉก็ระแวงเล่าปี่เหมือนกัน
ทำให้เล่าปี่ต้องใช้ "กลพรางตา" เพื่อลวงโจโฉ




1.เมื่อหมดเวลางาน ในยามว่างเล่าปี่จะไม่สุงสิงกับใคร วันๆจะจับจอบ จับเสียม ปลูกผักปลอดสารพิษในบ้าน เพื่อให้คนของโจโฉเห็นว่าเขาไม่สนใจการเมือง

2. เมื่อถูกโจโฉเรียกไปสนทนาวิจารณ์วีรบุรุษ เล่าปี่สามารถใส่หน้ากาก ทำตัวเป็นคนขี้ขลาด ขวัญอ่อนเพื่ออำพรางตนเองได้สำเร็จ

ครั้งที่ 3. คือขณะที่ โจโฉและเล่าปี่นั่งคุยกัน
ก็ได้รับรายงานจากหน่วยข่าวกรอง 2 เรื่องคือ


1.กองซุนจ้านเจ้าเมืองปักเป๋ง พ่ายแพ้อ้วนเสี้ยวและฆ่าตัวตายแล้ว
เล่าปี่เสียใจมากเพราะกองซุนจ้านมีพระคุณกับเล่าปี่มาก
2.อ้วนสุดฮ่องเต้กำมะลอจะมอบตราพระราชลัญจกรหรือตราหยกแผ่นดินให้กับ
อ้วนเสี้ยวเพื่อผนึกกำลังของตระกูลอ้วน
เล่าปี่เห็นเป็นโอกาสจึงอาสายกทัพกวาดล้างอ้วนสุด
เข้าทำนองอ้วนเสี้ยวฆ่าผู้มีพระคุณของข้า
ฉะนัั้นฆ่าต้องกำจัดอ้วนสุดน้องชายของเขา

โจโฉจึงพยักหน้าอนุมัติกองทัพ50,000 คนให้ไปตัังที่เมืองชีจิ๋ว
ซึ่งเป็นทางผ่านของทัพอ้วนส
ุด
จากนั้นไม่นานเล่าปี่ก็เคลื
่อนทัพปฎิบัติหน้าที่

กาเซี่ยงและเทียหยก เสนาธิการโจโฉได้ฟังข่าวเล่าปี่เคลื่อนทัพก็ตกใจ
รีบกลับเข้าเมืองหลวงแล้วสอบถามโจโฉไฉนจึงปล่อยเล่าปี่ให้มีอำนาจ
"นายท่านไม่ฆ่าเล่าปี่ก็ควรเอาไว้ใกล้ตัว ไม่ควรให้มันมีอำนาจหรืออยู่ไกลหูไกลตา
มันยกทัพไปเช่นนี้คงยากที่จะกลับมา"

โจโฉจึงรีบใช้เคาทูให้นำกองม้าเร็ว 500 นายไปตามเล่าปี่กลับมาด่วน
พอเคาทูไปถึงจึงกล่าวว่า
"ท่านขุนพล มหาอุปราชโจโฉมีข้อราชการจะหารือ ขอให้ท่านรีบกลับเข้าพระนครด่วน"

เล่าปี่ตอบกลับไปว่า
"แม่ทัพอออกศึกต่อให้มีราชโองการก็ไม่ต้องปฎิบัติตาม
ก่อนมาเราก็หารือกับมหาอุปราชแล้ว
วานท่านแจ้งว่าอย่าได้กังวล
เราจะกำจัดอ้วนสุดประกาศเกียรติรัฐบาลนายกฯโจให้โลกรับรู้"

เคาทูได้ฟังเช่นนั้นก็ไม่รู้จะกล่าวอะไร ในใจก็คิดว่า
"โจโฉสนิทสนมกับเล่าปี่
จะหักหาญใช้กำลังเกรงนายท่านจะด่าเอา
เพราะนายแค่ให้เรามาเชิญเท่านั้น
เขาไม่กลับ เราก็ต้องกลับไปรายงานนาย"

โจโฉและทีมเสนาธิการได้ฟังเช่นนั้น
เหล่าเสธฯจึงกล่าวว่า
"เล่าปี่มันเล่นไม่ซื่อแล้ว
คงยากที่มันจะกลับมา"

โจโฉบอกไม่เป็นไร. เราให้จูเหล็งกับล่อเจียว สองขุนพลคอยไปเป็นหูเป็นตาใ
นกองทัพ
เราเชื่อว่าเล่าปี่คงไม่กล้
าทำเช่นนั้น

พอเล่าปี่กำจัดอ้วนสุดจึงเขียนหนังสือกราบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้
และสั่งให้จูเหล็งกับล่อเจียว
ถือหนังสือดังกล่าวไปถวายพระเจ้าเหี้ยนเต้ในพระนครฮูโต

เป็นอันว่าเล่าปี่สามารถยึดกองทัพ 50,000 นาย
อย่างง่ายๆ ไม่ต้องเปลืองแรงในการสังหารจูเหล็งกับล่อเจียว
โจโฉพลาดท่าเป็นครั้งที่3 อย่างไม่น่าเชื่อ

คุณผู้อ่านครับ
โจโฉมองไม่เห็นเขี้ยวเล็บขอ
งเล่าปี่
ทำให้นายกโจฯ ไว้ใจในตัวเล่าปี่มากขึ้น
จึงวางใจให้คุมกองทัพ 50,000 นายไปปราบอ้วนสุด
แต่โจโฉก็ยังคงเป็นโจโฉไม่เ
คยเชื่อใจใครง่ายๆ
ยังคงส่งจูเหล็งกับล่อเจียว
ตามไปประกบเล่าปี่
ที่สำคัญในเมืองยังมีขุนพลก
ีเมาเป็นเจ้าเมือง

แต่เล่าปี่ก็อาศัยความอ่อนน้อม
วาน2 ขุนพลให้ไปส่งหนังสือกราบทูลให้กับพระเจ้าเหี้ยนเต้
ทำให้ 2 ขุนพลรีบเดินทางกลับเข้าพระนครฮูโต๋
โจโฉจึงเพิ่งจะตระหนักเห็นสติปัญญา
ล่อลวงกลอุบายภายใต้หน้ากากแสนซื่อของเล่าปี่
กว่าที่คนมากเล่ห์อย่างโจโฉจะรู้ตัวก็ถูกเล่าปี่ฮุบกองทัพ 50,000 นายไปแล้ว

เรื่องราวแบบนี้จะไม่เกิดหากโจโฉไม่ผิดพลาดเรื่องการสื่อสาร
1.โจโฉให้เคาทูไปตามเล่าปี่ แค่บอกให้ไปตาม
ซึ่งเคาทูก็ปฎิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
ให้ไปตามก็แค่ไปตาม
แต่ถ้าโจโฉบอกว่าให้ไปตาม ถ้าไม่กลับมาก็จงสังหาร

เคาทูย่อมต้องปฎิบัติตามอย่างแน่นอน
ทัพของจูเหล็งกับล่อเจียวคงไม่อยู่เฉย
3 พี่น้องแห่งสวนท้ออาจจะขึ้นสวรรค์ในตอนนี้ก็ได้
นี่คือความผิดพลาดในเรื่องการสื่อสารที่ไม่รัดกุม

2.โจโฉให้จูเหล็งกับล่อเจียวไปเป็นหูเป็นตา
ไม่ได้บอกให้หาโอกาสกำจัดเล่าปี่
ที่สำคัญเล่าปี่เป็นแม่ทัพ
ส่วน2 คนนี้เป็นแค่ขุนพลจะขัดคำสั่งได้อย่างไร

มันพลาดตั้งแต่โจโฉตั้งเล่าปี่เป็นแม่ทัพ
ถ้าศึกนี้เขาให้จูเหล็งหรือ
ล่อเจียวใครสักคนเป็นแม่ทัพ
ส่วนเล่าปี่เป็นรองแม่ทัพ
เรื่องราวความผิดพลาดย่อมไม
่เกิด

ผู้นำก็เช่นเดียวกันครับ
มักจะมีปัญหาด้านการสื่อสาร
เช่นคำสั่งไม่รัดกุม ไม่ชัดเจน
จนนำไปสูการตีความกันเอง
คราวนี้ก็สนุกล่ะครับ
เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์จะมีกระบวนการตีความที่แตกต่าง
เมื่อการตีความของเรา ไม่ตรงกับใจนาย
อะไรจะเกิดขึ้น

ผู้นำจำนวนมากชอบคิดว่า
"เรื่องแค่นี้คุณต้องรู้หรือต้องให้ผมสั่งทุกเรื่อง"
ก็บางเรื่องมันไม่รู้จริงๆ นี่ครับ
แทนที่จะเสียเวลามาตำหนิกันในเรื่องความฉลาดน้อย
สู้เอามาสอนจะดีกว่าไหมครับ
ผมเชื่อว่าไม่มีใครรู้ทุกเรื่อง
บางเรื่องผู้นำเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

ลูกน้องจำนวนมากต้องการคำสั่งที่ชัดเจน
เพื่อจะได้ทำได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
ไม่ใช่คำสั่งประเภท เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
หรือสั่งไม่หมดสักที แป๊บๆก็มีมาเพิ่ม คิดอะไรได้จู่ๆก็มาเพิ่ม
ซึ่งจะสร้างความปวดขมับให้คนทำงาน

ฉะนั้นหากนายต้องการให้ทำสิ่งใด
ควรจะบอกให้ชัดเจน เป็นเรื่องๆ
หากสงสัยต้องเปิโอกาสให้ถาม
ไม่ใช่ให้ไปคิดเอง
ถ้าลูกน้องไม่กล้าถาม
หัวหน้าก็ต้องให้ทวนคำสั่งและถามถึงความเข้าใจในคำสั่ง
หากทำเช่นนี้ได้โอกาสผิดพลาดย่อมลดลงได้มากครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก อ.เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป ผู้เชี่ยวชาญสามก๊ก