ความพ่ายแพ้ของผู้นำในสามก๊ก : เกงจิ๋วสิ้นสูญหลังมรณกรรมของเล่าเปียว

บทที่ 30

เกงจิ๋วสิ้นสูญหลังมรณกรรมของเล่าเปียว

บทเรียนผู้นำที่ไม่กล้าใช้คนดีและชอบรักษาคนเลว


วิสัยทัศน์ของผู้นำแสนดีอย่างเล่าเปียว
ที่ไม่กล้าใช้เล่าปี่ออกศึกกำจัดโจโฉ
เป็นการพลาดโอก
าสทองไปแล้วครั้งหนึ่ง

การพลาดโอกาสดียังพอให้อภัย
แต่การไม่กำจัดเภทภัยใกล้ตัวอย่าง นายพลชัวมอ
พี่ชายของภรรยาที่ชอบแอบอ้างคำสั่งหาประโยชน์เข้ากลุ่มตนเอง
อันนี้คือความผิดพลาดอันใหญ่หลวง
ที่เล่าเปียวเลี้ยงคนแบบนี้ จนได้ดิบได้ดีขึ้นมากุมอำนาจการทหาร




เหตุผลนี้ไม่ใช่เพราะชัวมอเป็นขุนทหารที่เก่งกาจ
หากแต่ชัวมอจะอาศัยชายกร
ะโปรงน้องสาวที่เป็นภรรยาเล่าเปียว
ทำให้ก้าวหน้าเร็วกว่าคนอื่น เวลาที่ทำผิดก็จะได้รับการให้อภัย
เพราะเล่าเปียวเห็นแก่หน้าภรรยา ทำให้วินัยทัพที่นี่หย่อนยา


ด้วยเหตุนี้ ทำให้นายพลชัวมอมักจะหาเรื่องกำจัดเล่าปี่
บุคคลที่เขามองว่าจะเป็นศัตรูทางการเมืองในอนาคต
ด้วยการแอบอ้างคำสั่งของเล่าเปียวโดยพลการ

รวมไปถึงการกีดกันเล่ากี๋ ทายาทคนโตของเล่าเปียว
ที่สมควรขึ้นเป็นเจ้าเมืองตามระบบจารีต
เพราะเขาต้องการให้เล่าจ๋อง ทายาทคนที่สองของเล่าเปียว
ที่เกิดจากนางชัวฮูหยิน (น้องสาวของตนเอง) ขึ้นมาเป็นเจ้าเมือง

นั่นหมายความว่าหากเล่าจ๋อง ได้เป็นเจ้าเมือง
ก็เท่ากับว่าอำนาจทั้งหมดจะ
เป็นของชัวมอ ไปโดยปริยาย

ความเลวร้ายของชัวมอไม่ใช่แค่นั้น
เมื่อเขาสามารถสนับสนุนเล่าจ๋องขึ้นเป็นเจ้าเมือง
จากนั้นเมื่อโจโฉยกทัพลงใต้
แทนที่ชัวมอจะชูนโยบายพิทักษ์แผ่นดินมาตุภูมิ
แต่กลับขายแผ่นดินเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
บังคับเล่าจ๋องให้ยอมแพ้
สละตำแหน่งเจ้าเมืองเกงจิ๋วให้กับโจโฉ
เพื่อหวังตำแหน่งและความก้าวหน้าของตนเอง

โจโฉรู้ใจคนอย่างชัวมอ
ที่อุตส่าห์ยอมขายเจ้านาย ยอมขายแผ่นดิน
จึงแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแ
ม่ทัพเรือ
ในศึกเช็กเพ็กหรือยุทธนาวีท
ี่ผาแดง
และชัวมอผู้นี้คืออุปสรรคให
ญ่ของจิวยี่แห่งกังตั๋งในศึกดังกล่าว

คุณผู้อ่านครับ
เหตุเภทภัยทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ล้วนมาจากการบริหารคนที่ผิดพลาดของเล่าเปียว 2 ประเด็นใหญ่คือ
1. มีคนดีมีฝีมือแต่ไม่กล้าใช้
2. ชอบรักษาคนเลวไว้ในองค์กร

หากองค์กรหรือหน่วยงานไหน
ผู้นำองค์กรมีนโยบายการบริหารคนแบบ
มีคนดีมีฝีมือแต่ไม่กล้าใช้
แต่ชอบรักษาคนเลวให้อยู่คู่องค์กร
จะด้วยเหตุผลใดก็ช่าง
บอกได้เลยว่าอยู่ด้วยแล้วโตยาก
เพราะคุณจะหมดโอกาสได้แสดงศักยภาพเต็มที่
เนื่องจากคุณเป็นคนเก่งที่โดดเด่นจนเจ้านายหวาดระแวง
และไม่กล้าเปิดโอกาสให้คุณแสดงความสามารถ

ฉะนั้นเจ้านายแบบนี้จะไม่สนับสนุน
หรือพัฒนาคุณให้เป็นคนเก่ง
เพราะเขากลัวว่าคุณจะเด่นเก
ินหน้า

ไม่เฉพาะแต่เจ้านายที่ไม่เอื้อให้คุณได้ดี
สภาพแวดล้อมรอบข้างที่เต็มไปด้วยคนห่วยแตกและคนเล่นพวก
ก็จะฉุดรั้งคุณเอาไว้ไม่ให้คุณเติบโต
หรือไม่ให้คุณแสดงความสามารถอันโดดเด่น

ฉะนั้นหัวหน้างานที่เกิดขึ้นภายใต้วัฒนธรรมองค์กรแบบนี
ก็จะไม่ใช่คนเก่ง หากแต่เป็นคนที่อยู่นาน
เป็นพวก "ข้าเก่าเต่าเลี้ยง" อาศัยฝีมือระดับหนึ่ง
แต่จะไม่ครีเอทอะไรใหม่ออกม
เพราะมันจะเป็นความเหนื่อยที่สูญเปล่า

ภายใต้วัฒนธรรมคนขาดสารอาหารเนื่องจาก
"เช้าชามเย็นชาม"
จึงไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงหรือการปรับตัว
ภายใต้วัฒนธรรมแบบนี้ถึงจะจ่ายเงินเดือนเยอะ
ก็ไม่น่าอยู่เพราะมันไม่ได้ทำให้คุณเก่งขึ้น
ตรงกันข้ามมันยังฉุดให้คุณแย่ลง
เพราะคิดเองไม่เป็น ฟังแต่คำสั่งอย่างเดียว

แต่ถ้าคุณชอบอยู่สบายๆ
เอาตัวรอดไปวันๆไม่ต้องการความท้าทายใหม่
องค์กรแบบนี้อาจเป็นองค์กรในฝันของคุณก็ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก อ.เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป ผู้เชี่ยวชาญสามก๊ก