ความพ่ายแพ้ของผู้นำในสามก๊ก : กองทัพ 18 หัวเมืองวงแตก

บทเรียนความพ่ายแพ้ของผู้นำในสามก๊ก

บทที่ 3
กองทัพ 18 หัวเมืองวงแตก
บทเรียนความไร้เดียงสาของเหล่าผู้นำที่ต้องทำงานเป็นทีม


ศึก 18 หัวเมืองปราบตั๋งโต๊ะคือฉากใหญ่ในการวิเคราะห์ภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมของเหล่า 18 ผู้นำ (แต่คนที่มีบทบาทมีเพียงไม่กี่คน) ที่บริหารงานกันจน "วงแตก" สุดท้ายก็กลับเมืองแบบขาดทุน เพราะไม่อาจบรรลุเป้าหมายในการทำงานเป็นทีม

หากถามผมว่าความล่มสลายของกองทัพ 18 หัวเมืองเกิดจากอะไร ในมุมมองของผมมากจากความไร้เดียงสาของชนชั้นผู้นำที่ต้องมาทำงานร่วมกันนับตั้งแต่

อ้วนเสี้ยวแม้จะเป็นแม่ทัพใหญ่ แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ขาดในการบริหาร เพราะมันไม่ใช่กองทัพของเขาคนเดียว ที่สำคัญเขาต้องการถนอมกองกำลังของตนให้เสียหายน้อยที่สุด จริงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แม่ทัพที่อาสาออกศึกลุยกับฝ่ายตรงข้าม จึงไม่เห็นเงาของงันเหลียง บุนทิว เตียวคับ ขุนทหารเอกของอ้วนเสี้ยว

เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะกองทัพของอ้วนเสี้ยวก็เป็นกองทัพเล็ก ๆ จากเมืองปุดไฮ ที่ต้องขอความช่วยทางเมืองกิจิ๋ว ด้วยเหตุนี้อ้วนเสี้ยวจึงไม่สามารถประกาศศักดาได้ หากนึกภาพไม่ออกก็ขอให้นึกถึงหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีบารมีและมีคนนับหน้าถือตา แต่จะทำอะไรก็ต้องดูสีหน้าเลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคคนอื่น ๆ

ฉะนั้นการที่อ้วนเสี้ยวสามารถประคองกองทัพเหล่าเจ้าพ่อ 18 หัวเมือง จนสามารถยึดพระนครลกเอี๋ยง ได้สำเร็จก็นับว่าเทพมากแล้ว เพราะมันยิ่งกว่าจับปูใส่กระด้งอีก

อาการแบบนี้ไม่ได้เป็นเฉพาะอ้วนเสี้ยว แม้แต่โจโฉก็เช่นกันเพราะรายนี้เป็นนักโทษการเมือง แผ่นดินจะอยู่ก็ยังไม่มี ตอนตั้งกองกำลังก็อาศัยอุยหองเศรษฐีใหญ่แห่งตันหลิวมาเป็นนายทุน แม่ทัพนายกองก็ใช่ใครอื่น ส่วนใหญ่ก็พวกแซ่โจและแฮหัวซึ่งเป็นญาติพี่น้องโจโฉเอง ฉะนั้นแม่ทัพที่อาสาออกศึกจึงไม่มีของโจโฉ

เมื่อยึดพระนครลกเอี๋ยงได้ โจโฉจึงต้องการให้ 18 หัวเมืองตามตีทัพตั๋งโต๊ะ แต่อ้วนเสี้ยวไม่เห็นด้วย อ้างว่าทุกคนเหนื่อยสมควรได้พัก ในขณะที่ขุนศึกคนอื่นก็นิ่ง โจโฉจึงตัดสินใจโดยพลการ ยกทัพของตนเพื่อไล่ตีทัพตั๋งโต๊ะ แต่สุดท้ายลิโป้ขยี้จนแทบเอาชีวิตไม่รอด

การเคลื่อนทัพโดยพลการของโจโฉ ก็ไม่ต่างกับการที่เปาสิ้น เจ้าเมืองเจปัก ส่งให้เปาต๋งน้องชายคุมทัพ5 หมื่นลอบเข้าตีด่านกิสุยก๋วน โดยไม่ฟังมติที่ประชุมจนย่อยยับเสียไพร่พลไปหลายหมื่น

คราวนี้มาดูคนที่ออกตัวแรงจนแหกโค้งอย่างซุนเกี๋ยนพยัคฆ์ร้ายแห่งเตียงสา รายนี้เหมาะที่จะเป็นแม่ทัพใหญ่เพราะฝีมือรบห้าวหาญ ทั้งกองทัพก็มีแสนยานุภาพเป็นที่ครั่นคราม ทั้งยังสามารถยืนบนลำแข้งตนเองได้โดยไม่ต้องมองสีหน้าใคร แต่ 17 หัวเมืองที่เหลือไม่ยอมรับ เพราะมาจากสายตระกูลกองทัพบ้านนอก ไม่มีเชื้อผู้ดีเหมือนตระกูลอ้วน ฉะนั้นเวลาซุนเกี๋ยนจะทำอะไรถึงมีแต่คนหมันไส้

ด้านอ้วนสุด แม้จะสืบทอดเชื้อสายตระกูลอ้วน มีกองทัพที่ใหญ่โตทั้งยังเป็นใหญ่ในแดนใต้ แต่ไม่ค่อยมีความสามารถ บารมีก็น้อยกว่าอ้วนเสี้ยว ทำให้อ้วนสุดกลายเป็นคนขี้อิจฉาถึงขั้นริษยา เห็นคนอื่นทำดีสร้างผลงานไม่ได้ต้องสกัดดาวรุ่ง

คุณผู้อ่านนึกภาพคนทั้ง 4 ที่ต้องมาทำงานร่วมกัน นี่ยังไม่นับอีก 14 หัวเมืองที่ต่างคนต่างใหญ่ ผมว่าอ้วนเสี้ยวผู้นำที่มีแต่บารมี ทำได้ขนาดนี้ก็บุญแล้วครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก อ.เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป ผู้เชี่ยวชาญสามก๊ก