ความพ่ายแพ้ของผู้นำในสามก๊ก : โจโฉพลาดท่าหม้ายสาวพราวเส่ห์

บทที่ 17
โจโฉพลาดท่าหม้ายสาวพราวเส่ห์
บทเรียนสุดยอดผู้นำที่พ่ายศึกเพราะเรื่องบนเตียง


ในบรรดาความพ่ายแพ้ที่บาดลึกของโจโฉ
คือการพ่ายแพ้เตียวสิ้ว ผู้ครองเมืองอ้วนเซีย
เพราะศึกนี้โจโฉต้องเสียโจงั่ง ลูกชายคนโต
โจอันบิ๋น หลานชายคนโต
เตียนอุย ยอดองครักษ์พิทักษ์โจโฉ

ศึกนี้โจโฉต้องรบกับเตียวสิ้ว
เตียวสิ้วเห็นโจโฉยกทัพมาเยอะ
จึงปรึกษากาเซี่ยงเสนาธิการ
กาเซี่ยงจึงแนะว่า "ยอมแพ้" เถอะ

คนฉลาดต้องรู้จักปรับตัว
โจโฉยกทัพมาขนาดนี้
หากฝืนสู้ก็มีแต่สูญเสีย
ฉะนั้นถนอมกองกำลังเอาจะดีกว่า
เราถือคติ"ยอมแพ้หาใช่ยอมจำนน"

ศึกนี้โจโฉยังไม่ได้ออกแรงรบก็ชนะครับ
จึงถือโอกาสพักผ่อนก่อนยกทัพกลับพระนครฮูโต๋
ทว่าอยู่นานจึงรู้สึกเหงา
บังเอิญไปสตรีงามนางหนึ่งจึงรู้สึกปิ๊ง
อยากได้นางมาคลายเหงา

คนสนิทของนายกฯโจโฉจึงบอกว่า
นางชื่อเจ๋าซือเป็นภรรยาม่ายของเตียวเจ
เป็นอาสะใภ้ของเตียวสิ้ว
ทว่าโจโฉไม่สนเพราะทนไม่ไหว
ตกค่ำวันนั้นจึงได้นางมาเป็นภรรยา

ข่าวโจโฉได้เสียกับอาสะใภ้มาถึงหูเตียวสิ้ว
สร้างความโกรธแค้นมากเพราะแค่ยอมแพ้ก็อัปยศแล้ว
ยังมาถูกโจโฉเหยียดหยามขนาดนี้
จึงปรึกษากับกาเซี่ยง

กุนซือเจ้าปัญญาจึงแนะนำแผนว่า
รอจังหวะอีกหน่อยให้ไอ้โจโฉคนหื่นมันตายใจ
คิดว่าพวกเราไม่มีพิษภัยอะไร
จากนั้นท่านจึงเข้าหามันเพื่อปรึกษางาน
โดยอ้างว่าทหารในเมืองหนีทัพ เพราะตัวท่านหมดบารมี
ส่วนตัวโจโฉนั้นมากบารมี ฉะนั้นจึงขอให้ทหารในเมืองมาตั้งค่ายใกล้ๆ
กับทหารหลวงของโจโฉที่อยู่นอกเมือง
เพื่อให้ทหารยำเกรงบารมีของมหาอุปราช(โจโฉ) จะได้ไม่กล้าหนีทัพ

โจโฉหนุ่มใหญ่ขี้เหงาเมื่อได้กระดังงาลนไฟอย่างเจ๋าซือ
มาบำบัดความเหงา
จากเดิมเป็นคนขี้เหงาก็กลายเป็นคนขี้ลืม
ลืมไปหมด ไม่ว่าจะงานราชการหรือแม้กระทั่ง
้กระทั่งประชุมกองทัพก็ไม่เคยมา

วันหนึ่งเตียวสิ้วมาหารือกับโจโฉ
ในเรื่องที่เตรียมการไว้กับกาเซียง
โจโฉเองก็รำคาญเพราะจะรีบไปหาความสำราญต่อ
จึงอนุมัติแบบง่ายๆโดยไม่ได้ไตราตรอง

ตกดึกทั่วทั้งค่ายโจโฉจึงเกิดไฟไหม้
แบบไร้สาเหตุ ตามด้วยมีหน่วยทัพไอ้โม่ง
บุกทะลวงค่ายรัฐบาล
เตียนอุย องครักษ์พิทักษ์โจโฉรบสุดความสามารถ
เพื่อไม่ให้เจ้านายถูกทำร้าย
สุดท้ายถูกธนูยิงกลายเป็นเม่น

ส่วนโจงั่งลูกชายคนโต
โจอันบิ๋นหลานชายคนโต
ล้วนพลีชีพทดแทนบุญคุณบุพการี
เปิดโอกาสให้โจโฉได้หนีตาย

ศึกนี้สร้างความเสียหายให้กับโจโฉมากมาย
ทั้งกองทัพและลูกหลาน
สร้างความเสียใจให้กับเขาเป็นอย่างยิ่ง

คุณผู้อ่านครับ
จอมยุทธยากผ่านด่านหญิงงามฉันใด
โจโฉก็ยากผ่านด่านหญิงงามฉันนั้น

จริงๆแล้วเหตุการณ์เตียวสิ้วก็ไม่อยากให้อาสะใภ้ทำเช่นนี้
แต่เมื่อเรื่องมันบานปลายขนาดรู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง
สิ่งเดียวที่ทำได้คือจำเป็นต้องให้นางเจาซือ เป็นนกต่อ
มัวเมาโจโฉให้เต็มที่
เพื่อหาโอกาล้างอาย
ซึ่งนางก็ทำได้ดี จนทำให้เตียวสิ้วชนะศึกครั้งนี้

บางครั้งความพลาดพลั้งของผู้บริหารหรือผู้นำ
ไม่ได้มาจากเรื่องงานหรือเรื่องคน
หากแต่พลาดท่าเพราะผู้หญิง
เนื่องจากเรื่องแบบนี้มันยากปฎิเสธ

เจียงไท่กง ผู้เขียนพิชัยสงครามลิ่วเทา
จึงใช้สตรีเป็นหนึ่งในเครื่องมืออ่านคน
เพราะผู้นำจำนวนมากชอบเล่าความลับที่ไม่ควรเปิดเผย
หรือเรื่องราวที่ไม่ควรปรึกษาให้กับสตรีข้างกายฟัง
บางคนหลงมัวเมาแต่ผู้หญิง
จนทำให้เสียการเสียงาน

การใช้สตรีทดสอบความหนักแน่นของผู้นำ
จึงเป็นแบบทดสอบหนึ่งในการอ่านคนของจีนโบราณ

มาถึงยุคนี้คงไม่มีใครใช้สตรีทดสอบความหนักแน่น
แต่ใช้สตรีเป็นเครื่องมือในการล้วงความลับ
หรือนำมาใช้แบล็คเมล์กับพวกเซเลปหรือคนดัง

ภายใต้กลยุทธ์นี้ทำให้ผู้นำจำนวนไม่น้อยพลาดท่า
เพราะถูกแบล็คเมล์ หรือถูกแฉในหลายๆเรื่อง
จากผู้หญิงเพียงคนเดียว
ทำให้เสียชื่อเสียง หมดความน่าศรัทธา
ยิ่งมีคลิปหลุดกันสนั่นเมือง
ก็ยิ่งน่าจะเป็นเครื่องเตือนใจให้ระวังในเรื่องนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก อ.เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป ผู้เชี่ยวชาญสามก๊ก