บทที่ 20
ยีเอ๋ง เย้ยฟ้า แก้ผ้าด่าโจโฉ
เทคนิคการกำจัดคนดีมีชื่อเส ียงของผู้นำ
ก่อนโจโฉจะเปิดฉากประกาศศึก
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหา
หนึ่งในแนวร่วมที่โจโฉเล็งอ
ขงหยงที่ปรึกษานายกฯโจ
ถือโอกาสสนับสนุนนักปราชญ์ห
ด้วยการเขียนฎีกากราบทูลให้
"ข้าพเจ้าขงหยงขอกราบทูลให้
ด้วยยีเอ๋งคนหนึ่งอายุยี่สิ
มีสติปัญญารู้หลักมาก
จักษุแลไปเห็นสิ่งใดแลหูได้
ใจนั้นก็คิดตลอดไม่ขัดขวาง
ประมาณการถูกทุกประการ
ขอให้เอายีเอ๋งมาใช้ราชการ
แต่งให้ไปเกลี้ยกล่อมเล่าเป
พระเจ้าเหี้ยนเต้จึงโปรดเกล
โจโฉจึงเรียกยีเอ๋งมาสอบสัม
นายกโจฯแสร้งนิ่ง เพื่อดูอากัปกริยาของยีเอ๋ง
เจ้านักปราชญ์หนุ่มเห็นเช่น
"เสียดายยิ่งนัก ทอดตาทั่วแผ่นดินกว้างใหญ่ แลไม่เห็นคนดีมีสติปัญญาแม้
โจโฉได้ฟังจึงท้วงว่า
"แผ่นดินเรานี้ที่ปรึกษาแลท
เหตุไฉนตัวจึงว่าไม่มีคนดี"
ยี่เอ๋ง คิดในใจว่าเข้าทางกูจึงบอกว
"ไหนลองเอ่ยนามให้ข้าพเจ้าฟ
โจโฉจึงบอกว่า
"ซุนฮก ซุนฮิว กุยแก เทียหยก ทั้งสี่คนนี้เป็นที่ปรึกษาซ
ยีเอ๋งฟังแล้วก็หัวเราะชอบใ
"ซุนฮกนั้นหน้าเหมือนหนึ่งจ
"ซุนฮิวนั้นชอบแต่ให้เป็นสั
"เทียหยกนั้นชอบแต่ใช้ให้เฝ
"กุยแกนั้นชอบแต่ให้แต่งโคล
"เตียวเลี้ยวนั้นชอบแต่ให้ต
"เคาทูนั้นชอบแต่ให้เลี้ยงว
"ลิเตียนนั้นชอบแต่ให้อ่านฟ
"งักจิ้นนั้นชอบแต่ให้เดินห
"ลิยอยนั้นชอบแต่ใช้ให้ชำระ
โจโฉเป็นคนรักลูกน้องแต่ยีเ
ชนิดเสียคนถึงขนาดนี้จึงโกร
แล้วตัวท่านล่ะมีความรู้สิ่
"ตัวเรานี้มีความรู้เจนจบทั
ปรัชญาศาสนา ลัทธิ ล้วนรู้แจ้งหมด แม้ในการปกครองแผ่นดินเราก็
ในขณะนั้นเตียวเลี้ยวยืนฟัง
แล้วจึงบอกับยี่เอ๋งว่า
"เมื่อท่านเก่งเช่นนั้นตอนน
ยี่เอ๋งก็นิ่งไม่ตอบ
พอถึงวันที่มีงานเลี้ยงในจว
เสียงกลองดังกระหึ่ม ด้วยจังหวะที่ไพเราะ
ทั้งเสียงทุ้มก็กังวานฟังฮึ
พอเสียงเบาก็ราวกับการต่อกร
ยีเอ๋งทำหน้าที่ตีกลองได้อย
ทุกคนปรบมือให้กับมือกลอง
ทว่าชุดที่มือกลองใส่มันช่า
ขุนนางคนหนึ่งจึงบอกว่า
ชุดมีตั้งเยอะไฉนเอาชุดพรรค
ยีเอ๋งได้ฟัง จึงรำพึงว่าเช่นนั้นถ้ามึงต
กูจัดให้ ว่าแล้วยีเอ๋งก็แก้ผ้ากลางง
โจโฉถึงกับทนไม่ไหวต้องปิดต
แล้วบอกว่า "มึงเป็นบ้าไปแล้วหรอถึงมาท
ยีเอ๋งตะโกนไปว่า "ร่างกายนี้สะอาดบริสุทธิ์ด
หาใช่โสโครกเหมือนใครบางคน"
โจโฉจึงถามกลับไปว่า
"มึงว่าใครโสโครก"
ยี่เอ๋งรอจังหวะนี้มานานจึง
"ไม่เข้าใจหรือว่ากูด่าใคร
กูจะพรรณนาความโสโครกของมึง
ประการหนึ่งมึง ไม่รู้จักคนดีแลชั่ว จักษุของมึงนั้นเป็นสิ่งโสโ
โจโฉนับความโสโครกได้ 3 อย่างในร่างกายจึงให้ทหารไป
พร้อมทั้งบังคับให้ไปเป็นทู
แม้ยี่เอ๋งจะไม่อยากไปก็ขัด
เพราะโจโฉเอาชีวิตของครอบคร
ยี่เอ๋งไปถึงเกงจิ๋วคารวะเล
จากนั้นจึงเจรจาความแบบกวนป
เล่าเปียวจึงบอกว่าเช่นนั้น
หองจอว่าเช่นไรเราก็ทำตาม
เมื่อยี่เอ๋งมาพบกับหองจอก็
หองจอได้ฟังเช่นนั้นก็ไม่ต้
ฉับพลันนั้นก็ดึงกระบี่เสีย
ปิดฉากชีวิตปราชญ์ผู้ชาญฉลา
สามก๊กตอนนี้หลายคนจะมองว่า
แต่ต้องมาตายเพราะปากตนเอง
ส่วนตัวของผม
การเปลือยกายตีกลองของยี่เอ
มีประเด็นที่น่าคิด
ทำไมคนเป็นปราชญ์จึงทำเรื่อ
สำหรับผมยี่เอ๋งคือคนกล้า ที่ไม่กลัวตาย
ในราชสำนักจะมีใครกล้าเหยีย
ปราชญ์หญู(ปราชญ์สายขงจื๊อ)
ถือเรื่องมารยาทความสำรวม
แต่สิ่งที่เหนือกว่านั้นคือ
ขุนนางส่วนใหญ่ต่างกลัวตายจ
รักษาได้แค่มารยาทและความสำ
ก้มหน้ารับใช้โจโฉ (ในมุมของยี่เอ๋งโจโฉคือกัง
กดขี่ราชวงศ์ฮั่นทั้งที่ทุก
ซึ่งเป็นคุณสมบัติของปราชญ์
ยี่เอ๋งเป็นปราชญ์ทำไมจะไม่
และยิ่งรู้ใหญ่ว่าโจโฉมีอำน
สามารถสังหารใครก็ได้
ยัดข้อหาให้ใครก็ได้
แต่เขาก็จะทำเพราะปราชญ์หญู
แต่ให้คุณค่าของคนที่คุณธรร
อายุยืน100 ปีรับใช้กังฉินมีประโยชน์หร
แต่อายุเพียง24 (ยี่เอ๋งอายุได้24 ) แต่สามารถทำประโยชน์ให้แผ่น
จรรโลมความถูกต้องเพื่อให้เ
นี่แหละคือความถูกต้องในทัศ
การเปลือยกายด่าโจโฉจึงบังเ
เป็นการประจานผู้นำ
เป็นการท้าทายแบบไม่ยำเกรงผ
โดยไม่กลัวต่อการตาย
ด้วยเหตุนี้โจโฉจึงแก้เล่นเ
ด้วยการใช้ยี่เอ๋งไปกล่อมเล
หากสำเร็จก็ได้เล่าเปียวเป็
หากไม่สำเร็จก็เป็นการทำลาย
ดิสเครดิตของยี่เอ๋งคนกล้า
ให้คนทั้งโลกรับรู้ถึงความด
การกำจัดคนที่มีชื่อเสียงที
ีจะทำให้ชื่อเสียงของโจโฉหม
เพียงเพราะเขาเอาความจริงมา
แม้ตายชื่อเสียงยังคงอยู่
แต่การทำให้ชื่อเสียงหม่นหม
ย่อมทำให้คนผู้นั้นหมดความน
หมดคุณค่าในการนับถือ
เขาจะสูญเสียทั้งชีวิตและชื
สุดท้ายก็จะถูกลืม
ทว่ากว่าจะโจโฉจะแก้เกมการเ
ก็เล่นเอาหน้าชาเพราะถูกด่า
ขอบคุณข้อมูลจาก อ.เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป ผู้เชี่ยวชาญสามก๊ก